รักษาผมร่วงแบบไหนดีสุด - วิธีแก้ปัญหาผมร่วง

รักษาผมร่วงแบบไหนดีสุด เจาะลึก ไม่ต้องไปหาอ่านที่ไหนอีกแล้ว

รักษาผมร่วงแบบไหนดีสุด ? ใครที่กำลังคิดจะซื้อ ยาปลูกผม ช้าก่อน อ่านบทความนี้ก่อนสักนิด แล้วคุณจะไม่เสียเงินฟรีๆ…

วันนี้จะมารีวิว วิธีแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน แต่ก่อนที่จะไปดูว่ามีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่สามารถรักษาได้บ้าง และวิธีการ รักษาผมร่วงแบบไหนดีสุด เราก็ต้องมารู้ก่อนว่าสาเหตุของผมร่วงเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง เพื่อให้สามารถเลือกวิธีการรักษาได้ตรงจุดมากที่สุด สำหรับ สาเหตุของผมร่วง จะอาจจะแตกต่างกันในผู้หญิงและผู้ชาย ดังนี้

สาเหตุที่ทำให้ผมร่วง

การที่คนเราอายุแตะเลข 30 แล้ว ผมร่วงเยอะมากๆเป็นเพราะอะไร แล้วจะใช้วิธีการ รักษาผมร่วงแบบไหนดีสุด ? มาดูกันเลยครับ

1. กรรมพันธุ์ พบได้มากถึง 90% ของคนที่มีผมบาง อาการแสดงคือ ผู้หญิงมักจะมีผมบางบริเวณกลางๆศีรษะ แตกต่างจากผู้ชายที่ส่วนใหญ่จะเริ่มจากแนวผมด้านหน้าจะค่อยๆถอยร่นเข้าไปแต่ก็พบว่ามีการร่วงที่เริ่มจากกลางศีรษะได้เช่นกัน

2.ฮอร์โมน :

ผู้หญิง – การเปลี่ยนแปลงระดับของฮอร์โมนเพศหญิงหลังจากการตั้งครรภ์ หรือการรับประทานยาคุมกำเนิดและการหมดประจำเดือน จะมีผลไปกระตุ้นต่อมรับฮอร์โมนแอนโดรเจนที่บริเวณหนังศีรษะให้ทำงานมากขึ้นและมีผลให้เกิดการหลุดร่วงของผม

ผู้ชาย – เกิดจากฮอร์โมนที่มีชื่อว่า DHT(dihydrotestosterone) ซึ่งเปลี่ยนมาจากฮอร์โมนเพศชาย Testosterone ที่หลั่งมาจากต่อมหมวกไตและลูกอัณฑะ โดยอาศัยการทำงานของเอนไซม์ 5-alpha-reductase ซึ่งพบว่าคนที่มีผมร่วงหรือผมบางในผู้ชายจะมีเอนไซม์ชนิดนี้ทำงานมากขึ้นบริเวณรากผม และเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมร่วง

3.ภาวะโรค เช่น โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ โรคโลหิตจาง โรคไตเรื้อรัง ภาวะหลังการผ่าตัด โรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคเรื้อน โรคสะเก็ดเงิน เป็นต้น หรือ ยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัด ยาคุมกำเนิดบางชนิด ยากันชัก ยารักษาภาวะซึมเศร้า

4.ขาดสารอาหาร เช่น การขาดโปรตีน ขาดวิตามินบี ภาวะที่อดอาหาร หรือได้รับสารอาหารบางชนิดมากเกินไปเช่น อาหารที่มีไขมันสูง เนื่องจากอาหารประเภทนี้จะเพิ่มระดับของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ทำให้ผมร่วงมากขึ้น, อาหารที่เกลือสูง (salty diet) จะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นและเส้นเลือดหดตัวได้ มีผลทำให้เลือดไปเลี้ยงรากผมได้น้อยลงหรือการทานชาและกาแฟที่มีคาเฟอีนในปริมาณมากเกินไป ทำให้เส้นเลือดหดตัวได้ เช่นกัน ส่วนที่มีคนบอกว่ากินผงชูรสทำให้ผมร่วงจริงๆแล้วไม่ใช่ แต่ ผงชูรสมีผลโดยตรงต่อการดูดซึมปริมาณวิตามินต่างๆเข้าสู่กระแสเลือดโดยเฉพาะ วิตามิน B6 ซึ่งมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมอย่างมาก ผู้ที่นิยมการกินอาหารที่มีผงชูรสปรุงแต่งบ่อยๆจะขาดวิตามินบี 6 และเส้นผมจะยาวช้า

5. ความเครียด

หลักการรักษาผมร่วง – รักษาผมร่วงแบบไหนดีสุด

1. ใช้ยาเพื่อยับยั้งฮอร์โมน DHT 

กรณีที่ผมร่วงจากกรรมพันธุ์หรือเกิดจากฮอร์โมน ยาที่ใช้ในการรักษาได้แก่ Finasteride ออกฤทธิ์โดยการไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ 5α-reductase ที่จะไปเปลี่ยนฮอร์โมนเพศชายไปเป็น DHT มีผลทำให้ระดับฮอร์โมน DHT ที่หนังศีรษะลดลง แต่จะใช้รักษาผมร่วงเฉพาะผู้ชายส่วนผู้หญิงใช้ได้เฉพาะวัยหมดประจำเดือน   ขนาดที่ใช้รักษา 1 mg วันละครั้ง เริ่มเห็นผลการรักษาได้ต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 3-6 เดือน

ฟีแนสเตอร์ไรด์, Finasteride, Propecia
ฟีแนสเตอร์ไรด์ (Finasteride) ยี่ห้อ Propecia

2. ขยายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงรากผม

ขยายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงรากผม เพื่อให้นำสารอาหารต่างๆไปเลี้ยงรากผมได้ขึ้น ได้แก่ยา Minoxidil ก็จะมีทั้งรูปแบบรับประทานและรูปแบบทา แต่แนะนำรูปแบบทามากกว่าเนื่องจากรูปแบบรับประทานเนื่องจากยาชนิดรับประทานมีฤทธิ์ลดความดันเลือด อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ หรือถ้าได้รับในขนาดสูงอาจทำให้ความดันโลหิตลดต่ำลงมากจนอาจหมดสติได้

สำหรับรูปแบบทาความแรงของยาที่แนะนำคือ Minoxidil 5% ทาวันละ 2 ครั้ง ควรทำความสะอาดหนังศีรษะและทำให้หนังศีรษะแห้งก่อนทายา จะเห็นผลการรักษาหลังจากเริ่มใช้ยาแล้วประมาณ 6 เดือน รูปแบบที่มีจำหน่ายในประเทศไทยมี 3 รูปแบบคือ แบบหยด (ใช้ Dropper),แบบสเปรย์, และแบบโฟม เช่น Rogaine Minoxidil (USA) , Reten 5, Nu Hair ซึ่งแต่ละผู้ผลิตก็จะมีสารประกอบแตกต่างกัน (เป็นสูตรลับในการผลิต) ซึ่งทำให้บางยี่ห้อใช้แล้วเหนียว คัน แต่บางยี่ห้อใช้แล้ว ไม่เหนียว ไม่คัน ควรเลือกยี่ห้อที่มีมาตรฐานในการผลิต และได้รับการยอมรับในวงกว้าง

ยาปลูกผมชาย Rogaine Minoxidil 5% แบบโฟม, โรเกนโฟม
ยาปลูกผมชาย Rogaine Minoxidil 5% แบบโฟม
ยาปลูกผม Rogaine สำหรับผู้ชาย แบบน้ำ, โรเกนชายแบบน้ำ, โรเกน
ยาปลูกผมชาย Rogaine Minoxidil 5% แบบน้ำ
ยาปลูกผมหญิง Rogaine Minoxidil 5% แบบโฟม, โรเกนโฟม
ยาปลูกผมหญิง Rogaine Minoxidil 5% แบบโฟม
ยาปลูกผม Rogaine สำหรับผู้หญิง แบบน้ำ, โรเกน
ยาปลูกผมหญิง Rogaine Minoxidil 2% แบบน้ำ
Reten 5 Minoxidil
Reten 5 Minoxidil
Nu Hair Minoxidil
Nu Hair Minoxidil

3. เสริมสารอาหารเพื่อบำรุงผม 

3.1 ธาตุเหล็ก(iron) ถ้าขาดก็จะทำให้มีการสร้าง keratin ของผมและเล็บผิดปกติไป และทำให้ผมเส้นบางลง ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำให้ให้ธาตุเหล็กเสริมรักษาในผู้ป่วยผมบางและผมร่วงทุกรายแม้ว่าไม่มีภาวะเลือดจาง ผลก็พบว่าอาการผมร่วงดีขึ้นในระยะเวลา 3-6 เดือน

3.2 สังกะสี (zinc) ช่วยบำรุงรากผมและเส้นผมให้แข็งแรงถ้าขาดก็อาจทำให้เกิดผมร่วงและอาจทำให้เกิดผมหงอก หรือมีสี

อ่อนลง เส้นผมเปราะหักง่าย ขนาดที่แนะนำคือ 8-15 mg/day(อายุมากกว่า 18 ปี)

3.3 ไบโอติน (biotin) ก็เป็นหนึ่งในวิตามินบี หรือเรียกว่า B7 มีคุณสมบัติละลายน้ำได้ดีจึงไม่สะสมในร่างกาย บทบาทสำคัญคือเป็น coenzyme ในการสร้างเส้นผมและบำรุงผมให้มีความแข็งแรง ถ้าขาดก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงได้ ปริมาณที่แนะนำต่อวันโดยทั่วไปคือ 30 mcg/day หรือถ้าเป็นแม่หลังคลอดแนะนำ 35 mcg/day

3.4 ซิสเตอีน (L-cysteine) ทำหน้าที่สำคัญหลายอย่างทั้ง มีคุณสมบัติเป็น antioxidant และเป็นสารตั้งต้น ในการสร้าง glutathione อีกทั้งสามารถกระตุ้น Growth Hormone ให้แบ่งเซลล์ผมใหม่เร็วมากขึ้น

นอกจากนี้ก็ยังมีวิตามินอื่นๆอีกมากมายที่มีส่วนในการบำรุงรากผมและเส้นผม เช่น กลุ่มวิตามิน B ต่างๆ วิตามิน C, D, E เป็นต้น

นอกจากนี้ก็มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีการผสมสารอาหารหลายๆตัวเข้าด้วยกันไปเลย เช่น อาหารเสริมบำรุงผม  Hair Soul (ตัวอย่างตามรูปข้างล่าง) ก็จะสะดวกไม่ต้องวุ่นวายซื้อแยกทีละตัว และไม่ต้องวุ่นวายในการรับประทานทีละหลายๆเม็ด ทานเพียงวันละ 1 เม็ดก็เพียงพอแล้ว ยกตัวอย่างเช่น

อาหารเสริมบำรุงรากผม  Hair Soul (สูตร H Balanze)

ยาปลูกผม Hair Soul
อาหารเสริมบำรุงผม Hair Soul
ยาปลูกผม Hair Soul
ผงในแคปซูลมีกลิ่นสมุนไพรเข้มชัดเจนมาก
ยาปลูกผม Hair Soul
วิตามินแร่ธาตุรวม 29 ชนิด คุณสมบัติครอบคลุมเรื่องบำรุงผมเน้นๆ
อาหารเสริมบำรุงผม Hair Soul - Resize
มีคู่มืออธิบายการทำงานของผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจน มีความตั้งใจทำอย่างพิถีพิถัน
หลักการทำงานของ Hair Soul อย่างย่อ
หลักการทำงานของ Hair Soul อย่างย่อ สารสำคัญค่อนข้างที่จะครอบคลุมได้ทุกกลไกเลย

Hair Soul New Package!

อาหารเสริมบำรุงผมสำหรับผู้หญิง H Balanze เอช บาลานซ์

*อาหารเสริมบำรุงรากผม Hair Soul (H Balanze) ใช้ได้ผลทั้งผู้ชายและผู้หญิง

  • ส่วนผู้หญิงที่ต้องทานยาคุมแนะนำในกลุ่มที่ฤทธิ์ของฮอร์โมนแอนโดรเจนต่ำๆ ถ้าอยากรู้ว่ามีตัวไหนบ้างลองดูคลิปนี้นะครับ

  • นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญคือต้องการปรับพฤติกรรมควบคู่ไปกับการรักษาด้วย เช่น การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะโปรตีน แต่ลดอาหารมันๆ เค็มๆ ลง หลีกเลี่ยงพฤติกรรมดึงผมเล่นหรือรวบผมตึงเกินไป หลีกเลี่ยงสารเคมีเช่นการย้อมสีผมบ่อยๆ เป็นต้น

สรุปหลักการรักษาผมร่วง มี 3 ข้อ ก็คือ

1. ใช้ยาเพื่อยับยั้งฮอร์โมน DHT

2. ใช้ยาเพื่อขยายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงรากผม

3. ทานอาหารเสริม วิตามินเสริม เพื่อบำรุงผม

แล้ววิธีการ รักษาผมร่วงแบบไหนดีสุด ล่ะ?

1. แก้ผมร่วงด้วยอาหารเสริมบำรุงผม

วิธีรักษาผมร่วงแบบไหนดีสุด - อาหารเสริมบำรุงผม
Rating คะแนนประเภทอาหารเสริมบำรุงผม

ข้อดี:

1. มีประสิทธิภาพสูงเนื่องจากร่างกายดูดซึมได้รวดเร็วกว่า และออกฤทธิ์ทำงานได้อย่างเต็มที่ ทำให้เห็นผลเร็วกว่า ชัดเจนกว่า
2. เป็นการบำรุงจากภายใน ทำให้ผลลัพธ์ยั่งยืนกว่า
3. แบบกินที่เป็นพวกวิตามินเสริมหรืออาหารเสริม มีความปลอดภัยสูง และเห็นผลดี
4. ทานง่าย ไม่ยุ่งยาก
5. ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

ข้อเสีย

1. มีความยากลำบากในการรวบรวมวิตามิน/อาหารเสริมที่ช่วยในเรื่องของยับยั้งผมร่วงและกระตุ้นผมใหม่แบบครบทุกตัว วิตามินรวมที่เฉพาะเจาะจงเรื่องบำรุงผมในตลาดมีน้อยและหายาก

2. ยาเม็ดรับประทาน ไมน๊อกซิดิล และ ฟีแนสเตอร์ไรด์

วิธีรักษาผมร่วงแบบไหนดีสุด - ไมน๊อกซิดิล ฟีแนสเตอร์ไรด์
Rating คะแนนประเภทยาเม็ดไมน๊อกซิดิล-ฟีแนสเตอร์ไรด์

ข้อดี:

1. มีประสิทธิภาพสูงเนื่องจากร่างกายดูดซึมได้รวดเร็วกว่า ตัวยาสามารถทำงานได้ทันทีที่ละลาย
2. ทานง่าย ปริมาณการใช้ตามแพทย์สั่ง
3. หาซื้อง่าย

ข้อเสีย

1. ตัวยามีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก เช่น Minoxidil (ไมน๊อกซิดิล) แบบเม็ดรับประทาน จะมีผลข้างเคียงในเรื่องของความดันที่แปรปรวน ส่วนถ้าเป็นยา Finasteride (ฟีแนสเตอร์ไรด์) จะมีผลข้างเคียงที่ผู้ชายอาจไม่ปลิ้มนัก ซึ่งก็คือ ทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลง (แม้ว่าจะพบแค่ 2% ของผู้ใช้ทั้งหมดก็ตาม ผลข้างเคียงนี้ก็น่ากลัวอยู่ดี) ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังวางแผนมีครอบครัว และ ฟีแนสเตอร์ไรด์นี้ ผู้หญิงไม่ควรทาน โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ เพราะอาจทำให้ทารกมีเพศที่กำกวมได้ ดังนั้น ยาไมน๊อกซิดิล และ ยาฟีแนสเตอร์ไรด์ ที่เป็นแบบเม็ดรับประทาน มักจะต้องอยุ่ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือเภสัชกรแนะนำเท่านั้น

3. ยาทาภายนอกประเภท เซรั่มปลูกผม ไมน๊อกซิดิล

วิธีรักษาผมร่วงแบบไหนดีสุด - ยาทาไมน๊อกซิดิล Minoxidil
Rating คะแนนประเภทยาทาภายนอก เซรั่มปลูกผม ไมน๊อกซิดิล

ข้อดี:

1. มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ โดยตัวที่ได้รับการรับรองจากแพทย์ผิวหนังสากลจะเป็น ไมน๊อกซิดิลแบบทาภายนอก
2. ผลข้างเคียงน้อยกว่าแบบยาเคมีชนิดเม็ดรับประทาน ค่อนข้างปลอดภัย ทำให้ใช้ได้ตลอด

ข้อเสีย

1. เห็นผลช้ากว่า เนื่องจากผิวหนังมีระบบป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกาย ทำให้ตัวยาซึมเข้าสู่ผิวหนังชั้นในและเข้ากระแสเลือดได้เพียงบางส่วนเท่านั้น

2. ในบางยี่ห้อ ตัวยาจะมีความเหนียว ทำให้เวลาใช้อาจเหนียวเหนอะหนะบนหนังศรีษะได้ เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวัน และรู้สึกไม่มั่นใจ

4. ยาสระป้องกันผมร่วง

วิธีรักษาผมร่วงแบบไหนดีสุด - ยาสระ
Rating คะแนนประเภทยาสระ

ข้อดี:

1. ทำให้หนังศรีษะสะอาด ล้ำลึก ไม่มีสิ่งอุดตันอันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมอ่อนแอ (ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ)
2. มีความปลอดภัยสูงสุด สามารถใช้ได้ทุกวัน
3. ไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
4. มีหลายระดับราคาให้เลือกใช้

ข้อเสีย

1. เห็นผลช้าสุด เนื่องจากยาสระผมอยู่บนผิวหนังศรีษะเราเพียงไม่นานก็ต้องล้างออก ไม่ทันได้ดูดซึม ทำให้สารกระตุ้นซึมลงผิวหนังได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น (ยาสระจะมีประโยชน์ในการทำความสะอาดมากกว่า)

5. ผ่าตัดปลูกผม

วิธีรักษาผมร่วงแบบไหนดีสุด - ผ่าตัดปลูกผม
Rating คะแนนประเภท ผ่าตัดปลูกผม

ข้อดี:

1. เห็นผลชัดเจน และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์/ผู้เชี่ยวชาญ
2. เห็นผลทันที ไม่ต้องรอนาน

ข้อเสีย

1. ราคาแพง
2. ต้องดูแลต่อ และต้องทานวิตามินบำรุงเสริมหลังจากที่ผ่าตัดเสร็จแล้ว ทำให้มีค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง
3. เจ็บตัว และต้องเสียเวลาให้ผมฟื้นตัวประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากผ่าตัด (อยู่ในเขตควบคุม เช่น ห้ามโดนแดด เป็นต้น)

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ น่าจะพอทราบกันแล้วนะครับว่า ต้องใช้อะไรถึงจะได้ผล เอาใจช่วยครับ เรื่องผมร่วง ผมบางแก้ได้ครับ แต่ต้องทุ่มเทกับมันหน่อย พอผมขึ้นแล้ว จะดีใจจนหายเหนื่อยเลยครับ 🙂

สั่งซื้อวิตามินปลูกผม H Balanze (Nutri- Active Anti DHT®) สูตรเข้มข้น คลิก Add Line ที่นี่ “Add Line”

วิตามินปลูกผมสูตรเข้มข้น H Balanze

รับปรึกษา ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศรีษะล้าน 24 ชั่วโมง ฟรี

โทร. 081-848-0870

Line ID: @Hairsoul

www.hairsoulofficial.com